กลุ่มผู้ใช้และผลการวิจัย


ทดสอบในกลุ่มผู้สูงอายุ
     การทดลองทางการแพทย์ จัดทำขึ้นในผู้สูงอายุของ Age Associated Memory Impairment (AAMI) ที่ศูนย์การแพทย์สามแห่ง และมีคนไข้ 30 คนสำเร็จการเรียนรู้ 16 สัปดาห์ที่ BRD Medical College, เมืองโกรัคปูร์
   ดีเบรม dbraime       ผลที่ได้พบว่ามีการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัดในด้านความจำเชิงตรรกะ นอกจากนี้ยังได้มีการสังเกตการณ์เกี่ยวกับความจำในเชิงตัวเลข และการเรียนรู้แบบคู่สัมพันธ์ตั้งแต่สัปดาห์ที่สี่เป็นต้นไปในกลุ่มที่ได้ รับสารสกัดโดยไม่แสดงอาการข้างเคียงใดๆ
(รายงานประจำปีของ CDRI ปี 2543-2544) 

ทดสอบในเด็กกลุ่มสมาธิสั้น
 ดีเบรม dbraime     ในเดือนมีนาคม 2542 หนังสือ Times ของอินเดียรายงานการศึกษาเกี่ยวกับสารสกัด Bacopa Monniera ในกลุ่มเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจาก Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) ซึ่งในจำนวนเด็ก 36 คน มีเด็ก ระหว่าง 8 ถึง 10 คนที่ถูกสุ่มด้วยวิธี double-blind randomnized เพื่อทำการทดลอง

 ดีเบรม dbraime    ข้อมูลที่ได้ปรากฏว่า มีการปรับปรุงอย่างที่เห็นได้ชัดในการทดลองซ้ำในเรื่องความจำเชิงตรรกะและ การเรียนรู้แบบคู่สัมพันธ์ ในเด็ก 19 คนที่รับประทานสารสกัด Bacopa Monniera Dr. OP. Asthana หัวหน้าการทดลองที่ CDRI กล่าวว่าผลการทดลองที่ได้เป็นการยืนยันประสิทธิภาพและความสามารถในการทน สมุนไพรชนิดนี้


การค้นคว้าวิจัยสารสกัด Bacopa Monniera ในต่างประเทศ
ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสวินเบิร์น วิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย  ดีเบรม dbraime 
ผลการทดลองทางการแพทย์กล่าวได้ว่า สารสกัดช่วยปรับปรุงกระบวนการรับรู้ได้ดีขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ป้อนเข้าจากสภาพแวดล้อมของเรา เช่น การเรียนรู้และความจำ ผลการทดลองนี้ได้มีการจัดพิมพ์เผยแพร่ไว้ใน Phychopharmacology –ปี 2544
ที่มหาวิทยาลัย Wollongong, Wollongong ประเทศออสเตรเลีย
การศึกษาอีกกรณีหนึ่งเพื่อวัดผลของสารสกัดที่มีต่อความจำ ของมนุษย์ ทำขึ้นโดย Roodenrys และคนอื่น (ปี พ.ศ. 2545) ที่ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัย Wollongong ประเทศออสเตรเลีย ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารสกัดนี้มีผลอย่างสำคัญในการทดสอบเกี่ยวกับการจด จำข้อมูลใหม่ๆ ในการทดสอบที่ได้ทำต่อ ปรากฏว่าอัตราการเรียนรู้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จึงกล่าวได้ว่าสารสกัดนี้ช่วยลดอัตราการลืมข้อมูลใหม่ๆที่ได้รับ ผลการศึกษานี้ได้มีการพิมพ์เผยแพร่ไว้ใน Neuro-psychologypharmacoloty ปี 2545


Dr.Robert Furchgott และ Bacosides A&B  ดีเบรม dbraime 
     Dr.Robert Furchgott เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการได้รับรางวัลโนเบลในด้านสรีรศาสตร์และการแพทย์ใน ปี พ.ศ. 2541 ร่วมกับ Dr. Louis Ingnarro เนื่องจากเป็นผู้ค้นพบว่าไนตริคออกไซด์ (NO) เป็นโมเลกุลในระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้ทำการทดสอบสารสกัด CDRI และพบว่าตามการทดลองของสถาบัน ส่วนประกอบนี้สามารถสร้างไนตริคออกไซด์ และช่วยผ่อนคลายสภาพภายในหลอดเลือดแดงใหญ่ (aortic rings) ได้ถึง 75%

คุณประโยชน์ของไนตริคออกไซด์ (NO)
     การศึกษาเรื่องไนตริคออกไซด์ ถือว่าเป็นการค้นพบทางชีววิทยาที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของศตวรรษที่ผ่านมา ให้ผลว่า สามารถควบคุมระบบการทำงานของร่างกาย โดยไม่มีขีดจำกัด รวมทั้งการไหลเวียนของโลหิตและเป็นตัวควบคุมที่สำคัญของการทำงานของสมองและ ความดันโลหิต ไนตริคออกไซด์ที่มีอยู่ในสมองจะช่วยป้องกันภาวะสมองขาดเลือด นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในการป้องกันโรคความจำเสื่อม เช่น โรคอัลไซม์เมอร์ และโรคพาร์กินสัน      สารสกัด (Bacosides A&B) ยังสามารถช่วยระบบการสื่อประสาทจากปลายประสาท (Strough C et.al.Psychopharmacology, 2011) และเมื่อมีการหลั่งสารออกมาเมื่อถูกกระตุ้น ก็จะช่วยลดความเครียดโดยการปล่อย “acetyl choline” ที่ปลายประสาท รวมทั้งเส้นประสาทที่เป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวและกระตุ้นประสาท parasympathetic ทำให้รวมตัวกันและช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต  ดีเบรม dbraime 




 

ค้นหาบทความในบล็อกนี้